เจาะลึกตลาดคริปโตเคอร์เรนซี: จากปัจจัยพื้นฐานสู่กลยุทธ์

คริปโต
10 กรกฎาคม 2025
Crypto Insights

เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง คู่มือนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักเทรดระดับกลางเข้าใจแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังราคาคริปโตและวิธีตอบสนองต่อปัจจัยเหล่านั้นอย่างมีกลยุทธ์ 

เราจะอธิบายวิธีการใช้ข่าวเศรษฐกิจมหภาค การวิเคราะห์ทางเทคนิค สัญญาณจากภาวะอารมณ์ตลาด และความสัมพันธ์ระหว่างตลาดต่างๆ เพื่อนำมาสร้างกลยุทธ์การซื้อขายอย่างมั่นใจและมีความชัดเจนมากขึ้น 

มาเริ่มกันเลย 

 

สารบัญ 

  1. การใช้ปฏิทินเศรษฐกิจสำหรับคริปโต 

  1. เชื่อมโยงปัจจัยพื้นฐานเข้ากับการเคลื่อนไหวของตลาด 

  1. การวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับคริปโต: เลือกจังหวะเข้าเทรด 

  1. ผสานปัจจัยพื้นฐานร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค 

  1. อ่านสัญญาณจากตลาดต่างๆ 

  1. เครื่องมือที่เทรดเดอร์คริปโตทุกคนควรใช้ 

  1. กลยุทธ์: การย่อตัวหลังข่าว 

  1. จิตวิทยาของเทรดเดอร์คริปโต 

  1. สรุปประเด็นสำคัญ 

 

การใช้ปฏิทินเศรษฐกิจสำหรับคริปโต 

แม้คริปโตจะกระจายศูนย์ แต่ข่าวมหภาคก็ยังส่งผลต่อราคาได้อยู่ดี 

แม้ว่า Bitcoin จะไม่ได้ผูกกับธนาคารกลางใดๆ แต่ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อข้อมูลเศรษฐกิจดั้งเดิม ปฏิทินเศรษฐกิจจึงไม่ได้มีไว้แค่สำหรับตลาดฟอเร็กซ์หรือตลาดหุ้นเท่านั้น เพราะเทรดเดอร์คริปโตสามารถใช้เพื่อล่วงรู้ถึงความผันผวน และหลีกเลี่ยงการถูก “เซอร์ไพรส์” โดยเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 

สิ่งที่ควรจับตา: 

  • ข้อมูล CPI และตลาดแรงงานของสหรัฐฯ 

  • คำแถลงของ Fed และการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย 

  • ข่าวกฎระเบียบ (เช่น มาตรการของ SEC, การอนุมัติ ETF) 

  • การประกาศการใช้งานที่สำคัญ (เช่น แพลตฟอร์มชำระเงินเพิ่มการรองรับคริปโต) 

ตัวอย่าง: 
Bitcoin ร่วง 5% หลังจากข้อมูล CPI สูงกว่าคาด ส่งสัญญาณว่า Fed อาจยังคงนโยบายเข้มงวดต่อไป เทรดเดอร์ที่คาดการณ์ไว้ก่อนอาจปรับพอร์ตหรืองดเทรดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง 

ตอนนี้เราจะไปดูว่าเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างไรบ้าง 

 

เชื่อมโยงปัจจัยพื้นฐานเข้ากับการเคลื่อนไหวของตลาด 

คุณอาจเคยเห็นพาดหัวข่าวที่ทำให้เหรียญพุ่งหรือร่วง แล้วจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร? 

หัวข้อนี้จะเชื่อมเหตุการณ์ข่าวเข้ากับทิศทางของตลาด เมื่อมีปัจจัยพื้นฐานเกิดขึ้น สิ่งที่คุณต้องทำคือจับคู่เหตุการณ์นั้นเข้ากับมุมมองของตลาดและแนวโน้ม 

เหตุการณ์ 

ผลกระทบที่น่าจะเกิดขึ้น 

ท่าที Fed เข้มงวด (Hawkish) 

เป็นลบต่อ BTC และ ETH 

ข่าวการยอมรับจากสถาบันใหญ่ 

เป็นบวกต่อเหรียญหลักส่วนใหญ่ 

การแฮ็กหรือหลอกลวงครั้งใหญ่ 

เป็นลบ โดยเฉพาะกับอัลท์คอยน์ (Altcoins) 

การอนุมัติหรือเลื่อน ETF 

เป็นบวกหรือเป็นลบ ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ 

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก 

ผสมปนเป: BTC อาจพุ่งขึ้นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง 

การเข้าใจ "เรื่องเล่า" หรือบริบทของข่าว จะช่วยให้คุณคาดการณ์ล่วงหน้าได้ดีกว่าการวิ่งตามราคา แต่อย่างไรก็ตาม คุณยังจำเป็นต้องใช้กราฟเพื่อจับจังหวะการเข้าออกอยู่ดี 

 

การวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับคริปโต: การจับจังหวะเข้าเทรด 

ปัจจัยพื้นฐานช่วยให้คุณเห็นทิศทาง ส่วนการวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยให้คุณวางแผนการเข้าออกอย่างมีประสิทธิภาพ 

ตอนนี้คุณเข้าใจบริบทแล้ว มาดูกันว่าคุณจะใช้เครื่องมือหลักอะไรเพื่อหาจุดเข้าออกที่ฉลาดขึ้นได้บ้าง 

เครื่องมือยอดนิยม: 

  • แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance): ใช้ระบุโซนที่ราคาเคยมีปฏิกิริยา 

Screenshot 2568 07 16 At 20.07.35
  • เส้นเทรนด์และช่องแนวโน้ม (Trendlines and Channels): วาดเส้นตามจุดสูงหรือต่ำของกราฟ เพื่อดูทิศทางและแรงส่งของแนวโน้ม

Screenshot 2568 07 16 At 20.07.46
  • เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages 50/200): ใช้ดูอคติของแนวโน้มและแนวรับแบบไดนามิก 

Screenshot 2568 07 16 At 20.08.03
  • รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns): มองหาแท่งเทียนที่กลืนกัน (Engulfing), แท่งพินบาร์ (Pin Bars), หรือไส้เทียนที่บ่งบอกความลังเลในจุดสำคัญ 

Screenshot 2568 07 18 At 19.14.38

เคล็ดลับจากมือโปร: ยิ่งกราฟสะอาดเท่าไหร่ยิ่งดี พยายามอย่าใส่อินดิเคเตอร์มากเกินไป 

เมื่อคุณมีเครื่องมือครบแล้ว ก็ถึงเวลาผสมมันเข้ากับ "เรื่องราว" ของตลาด เพื่อมองภาพให้ครบถ้วน 

 

ผสานปัจจัยพื้นฐานร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค 

นี่คือจุดที่เทรดเดอร์ระดับกลางเริ่มสร้างความได้เปรียบ 

ในส่วนนี้ เราจะยกตัวอย่างเหตุการณ์จริง 2 กรณี เพื่อแสดงให้เห็นว่าการผสานข้อมูลพื้นฐานเข้ากับการวิเคราะห์เชิงเทคนิคสามารถนำไปสู่การเข้าเทรดที่ชาญฉลาดขึ้นได้อย่างไร 

สถานการณ์ที่ 1: 
ETH ปรับตัวขึ้นจากกระแสความคาดหวังเกี่ยวกับ ETF ชาร์ตทะลุแนวต้านขึ้นไปและปิดเหนือระดับนั้นด้วยปริมาณการซื้อขายสูง สองวันถัดมา ราคาย้อนกลับมาทดสอบระดับเดิมและเกิดแท่งเทียน bullish pin bar นี่คือสัญญาณเข้าเทรดที่มีศักยภาพ: ปัจจัยพื้นฐานหนุน และการวิเคราะห์ทางเทคนิคก็ยืนยัน 

สถานการณ์ที่ 2: 
SOL พุ่งขึ้น 30% จากกระแสข่าวลือ แต่กิจกรรมบนบล็อกเชนกลับไม่เติบโต อีกทั้ง RSI ก็อยู่ในโซน overbought ชาร์ตแสดงรูปแบบ double top และเกิดแท่งเทียน bearish engulfing นี่คือสัญญาณเตือนว่าเรื่องราวในตลาดเริ่มหมดแรงแล้ว 

ตอนนี้เมื่อเราเชื่อมเรื่องราวกับกราฟได้แล้ว ก็ได้เวลามองข้ามกราฟไปอีกขั้น 

 

อ่านสัญญาณจากตลาดต่างๆ 

คริปโตไม่ได้เคลื่อนไหวแบบสุ่ม เพราะมันเชื่อมโยงกับตลาดอื่นๆ ด้วย 

สิ่งที่ควรดู: 

  • Bitcoin vs. NASDAQ: หุ้นเทคมักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับ BTC ให้สังเกตสัญญาณเบื้องต้นจากตรงนี้ 

  • ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY): ดอลลาร์แข็งค่ามักกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต 

  • ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์: เมื่อเกิดความกลัว เม็ดเงินจะไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งอาจดึงเงินออกจากอัลต์คอยน์ 

ความสัมพันธ์ระหว่างตลาดสามารถช่วยยืนยันหรือท้าทายมุมมองของคุณ ใช้มันเพื่อยืนยันทิศทาง ของตลาด 

ตอนนี้มาดูกันว่าเรามีเครื่องมือที่เหมาะสมเพียงพอหรือยังในการก้าวนำหน้าอยู่เสมอ 

 

เครื่องมือที่เทรดเดอร์คริปโตทุกคนควรใช้ 

การเตรียมพร้อมคือครึ่งหนึ่งของการต่อสู้ 

ชุดเครื่องมือของคุณควรรวมถึง: 

  • ปฏิทินเศรษฐกิจ: ติดตามการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐและการประชุมของ Fed 

  • ฟีดข่าวคริปโต: ใช้แพลตฟอร์มอย่าง CoinDesk, The Block หรือ D Prime Market Analysis 

  • แพลตฟอร์มกราฟ: MT5, TradingView หรือเครื่องมือที่เชื่อมกับโบรกเกอร์ใดๆ 

  • ตัวชี้วัดอารมณ์ตลาด: ดู Fear & Greed Index, funding rate และข้อมูลแบบ COT 

  • สมุดบันทึกการเทรด: บันทึกการตั้งค่า อารมณ์ และผลลัพธ์ 

โครงสร้างทำให้คุณสม่ำเสมอ ตอนนี้ถึงเวลานำทุกอย่างไปใช้ในสถานการณ์จริงแล้ว 

 

กลยุทธ์: การย่อตัวหลังข่าว 

นี่คือกลยุทธ์ที่สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ โดยผสมผสานข่าวมหภาคกับการวิเคราะห์ราคาทางเทคนิค 

การตั้งค่า: 

เมื่อมีข่าวร้อนทำให้ BTC พุ่งขึ้น แทนที่จะกระโดดเข้าไปตอนตลาดปั่นป่วน ให้รอให้ราคาย่อตัวกลับมาที่โซนแนวรับหรือแนวต้านเดิม 

วิธีปฏิบัติ: 

  • ระบุระดับโครงสร้าง (เช่น แนวต้านเดิมที่ถูกทะลุและกลายเป็นแนวรับ) 

  • รอสัญญาณ เช่น bullish engulfing, hammer ฯลฯ 

  • มองหาจุดเข้าเทรดที่มีการตั้งจุดตัดขาดทุนและอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง 2:1 อย่างชัดเจน 

ตัวอย่าง: 
ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นหลังข่าว ETF แล้วดึงกลับจาก 44,000 ดอลลาร์มา 42,500 ดอลลาร์ พิมพ์แท่งเทียนที่มีไส้ยาวและปิดแท่งเขียว นั่นคือสัญญาณเข้าซื้อที่อาจเป็นไปได้ 

ตอนนี้เรามาดูเรื่องจิตวิทยากันต่อ 

 

จิตวิทยาของเทรดเดอร์คริปโต 

หากไม่มีกรอบความคิดที่ถูกต้อง เครื่องมือทั้งหมดในโลกก็ไม่ช่วยอะไร 

คริปโตเต็มไปด้วยความผันผวน อารมณ์ และกระแส คุณต้องมีสติอยู่เสมอ 

เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์: 

  • อย่าวิ่งตามราคา ให้รอจุดเข้าที่ชัดเจน 

  • ตัดขาดทุนให้ไว ปล่อยให้กำไรวิ่งต่อไป 

  • สังเกตอารมณ์ของตัวเอง อย่าซ้ำเติมความหัวเสียด้วยการเทรดเพิ่ม 

  • ถ้าจิตใจไม่พร้อม ให้พักออกมาก่อน 

ข้อได้เปรียบของคุณไม่ใช่แค่ระบบ แต่คือการควบคุมตัวเอง 

 

สรุปประเด็นสำคัญ 

ระดับกลางคือจุดที่คุณหยุดเดา แล้วเริ่มคิดแบบนักวางกลยุทธ์ 

ใช้ปฏิทินเศรษฐกิจ เชื่อมโยงพาดหัวข่าวกับแนวโน้ม อ่านกราฟอย่างมีเป้าหมาย และที่สำคัญที่สุด จงรักษากรอบความคิดให้เฉียบคม 

ตลาดไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์แบบ แต่มันต้องการการเตรียมพร้อม 

เมื่อคุณพร้อมแล้ว คลิกที่นี่ เพื่อสำรวจคู่มือคริปโตขั้นสูงของเราในการฝึกกลยุทธ์ความน่าจะเป็นสูง การจับจังหวะที่แม่นยำ และการควบคุมความเสี่ยงผ่าน CFDs ในคริปโต 

 

คำชี้แจง 

ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอซื้อขาย หรือคำเชิญชวนให้ทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูลนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้อ่านแต่ละคน หรือความต้องการเฉพาะ และไม่ควรถูกมองว่าเป็นคำแนะนำเฉพาะบุคคลข้อมูลผลการดำเนินงานในอดีตไม่ใช่ตัวชี้วัดที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต D Prime และบริษัทในเครือไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของข้อมูลที่นำเสนอ และไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือการขาดทุนใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลนี้หรือการตัดสินใจลงทุนที่อิงจากข้อมูลนี้ 

โปรดอย่าใช้เนื้อหาข้างต้นแทนการตัดสินใจโดยอิสระของคุณเอง ควรพิจารณาความเหมาะสมของข้อมูลนี้กับสถานการณ์ส่วนบุคคลของคุณก่อนตัดสินใจลงทุน ตลาดมีความเสี่ยง และการลงทุนควรทำด้วยความระมัดระวัง 

@2025 D Prime สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด